เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ขอเสนอให้รัฐบาล พิจารณาเพิ่ม อินเดีย ลาว อยู่ในบัญชีประเทศที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัว ผมได้เห็นรายชื่อประเทศต่างๆที่รัฐบาล และ ศบค.ประกาศอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไปโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งมีทั้งหมด 46 ประเทศ ก็นับว่าเป็นจำนวนประเทศที่มากพอสมควร แต่สิ่งที่ผมแปลกใจ ก็คือ มีอยู่ 2 ประเทศ ที่ไม่มีรายชื่ออยู่ในรายชื่อ 46 ประเทศ
ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย คือ
1.ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมาก เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศคู่ค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย เป็นตลาดใหญ่ในการส่งออกสินค้าของไทย เพราะเป็นประเทศที่มีประชากรมาก มีกำลังซื้อ และการบริโภคที่สูงมาก แต่กลับไม่มีรายชื่ออยู่ใน 46 ประเทศ ผมเองมีเพื่อนเป็น คนเชื้อสายอินเดียหลายคน ซึ่งไม่สามารถตอบคำถามนี้ ต่อเพื่อนเพื่อนได้ว่า ทำไมรัฐบาลไทยไม่อนุญาตให้คนอินเดีย เดินทางมาประเทศไทยเหมือนกับประเทศอื่นๆ อีก 46 ประเทศ ทั้งที่ในประเทศไทย ก็มีคนไทยเชื้อสายอินเดียที่มีบทบาททางเศรษฐกิจจำนวนไม่น้อย และปริมาณการติดเชื้อโควิด-19ในอินเดีย ก็ลดน้อยลง คนอินเดียส่วนใหญ่ ได้รับการฉีดวัคซีนเกือบหมดทั้งประเทศแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใด ที่จะกีดกันคนอินเดีย ไม่ให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
2.ส.ป.ป.ลาว ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ได้ดีมากประเทศหนึ่ง และมียอดผู้ติดเชื้อต่ำมาก ประชากรก็ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากเช่นกัน เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย สามารถติดต่อ เดินทางเข้าออกทางด้านพรมแดน และช่องทางธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย มีวัฒนธรรมประเพณี และภาษาพูดที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด แต่กลับไม่มีอยู่ในรายชื่อ 46 ประเทศ ในขณะเดียวกันประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา กลับมีรายชื่ออยู่ใน 46 ประเทศด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะตอบคำถาม และจะหาเหตุผลอธิบายต่อเพื่อนของเรา ใน2ประเทศนี้ได้อย่างไร
ผมจึงขอเสนอให้รัฐบาล และ ศบค.ได้พิจารณาทบทวนเพิ่มรายชื่อประเทศอินเดีย และ สปป.ลาว ลงในรายชื่อเป็น 48 ประเทศ ที่ประเทศไทย อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศได้เพิ่มเติม เพื่อความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ดี ของประเทศอินเดีย และลาว ต่อประเทศไทยด้วย
ผู้บริหาร ช่อง 5 ประกาศเปลี่ยน เบอร์ช่อง ใหม่ กลับมาใช้เบอร์ 5 ชี้จำง่ายและแม่นยำ หลังมีประชาชนจำนวนมากเข้าใจผิดจำช่องไม่ได้ พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ. 5 ) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2557 เป็นต้นมา พบว่าผู้ชมยังเกิดความคลาดเคลื่อนในการเข้าถึง โดยยังเข้าใจแบบเดิมคือ หากต้องการรับชมรายการของ ททบ. 5 ต้องกดหมายเลข 5 ส่งผลให้ฐานผู้ชมของ ททบ. 5 ลดลง ผู้ชมเสียโอกาสในการรับชมรายการที่ดีและมีประโยชน์
ดังนั้นเพื่อให้ผู้ชมสามารถจดจำเลขหมายของช่องได้อย่างแม่นยำพร้อมการคงอัตลักษณ์ของสถานีไว้อย่างชัดเจน ททบ. 5 จึงได้ยื่นขอเปลี่ยนหมายเลขช่อง จากหมายเลข 1 เป็นหมายเลข “5” ต่อบอร์ด กสทช. ซึ่งได้รับการอนุมัติเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2564
อดีตพระยันตระ ยันตนยังเป็นพระ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
อดีตพระยันตระ ให้สัมภาษณ์หลังมีชาวเน็ตแห่แชร์ภาพ พระสงฆ์แห่งกราบอดีตพระยันตระ ชี้ตนยังเป็นพระ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นาย วินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เปิดเผยว่าตนยังพูดแทนตัวเองว่าอาตมา ยืนยันว่าตัวเองยังเป็นนักบวชอยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่รูปแบบภายนอกเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
ส่วนที่กลับประเทศไทยเพราะเป็นแดนมาตุภูมิที่เกิดของอาตมา อาตมาเกิดที่ปากพนัง นครศรีธรรมราช ยังมีญาติพี่น้องอยู่เยอะ ตั้งใจมาเยี่ยม และศิษย์สาธุชนที่ยังมีความเลื่อมใสอยู่ ทุกคนดีใจที่อาตมากลับมา ก็มากราบมาไหว้ อาตมาก็ไม่มีสิ่งใดนอกจากพูดให้ธรรมะ
ในส่วนของประเด็นที่ถูกตั้งคำถามว่า อดีตพระยันตระ ไม่ใช่พระแล้ว ทำไมยังให้พระสงฆ์ไปกราบไหว้ท่าน สำนักพุทธฯ กำลังตรวจสอบพระสงฆ์ที่ไปกราบไหว้ท่านจะมีความผิดได้ ยืนยันว่า อาตมายังเป็นพระอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่อาตมาไม่ปลงผม ไม่ปลงหนวด ปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะอาตมาอยู่อเมริกา อยู่ป่าจะมาวัดเป็นครั้งคราว ในวันวิสาขบูชา หรือ วันมาฆบูชา หรือ วันอาสาฬหบูชา
ถามว่าแต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ศรัทธาท่านแล้ว อดีตพระยันตระ กล่าวว่า อาตมาเข้าใจโลก จะให้คนมาเข้าใจเราทั้งหมดไม่ได้ เป็นธรรมดา
ตอนนี้มีนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาออกมาบอกว่าพระสงฆ์ที่ไปกราบไหว้ท่านไม่เหมาะสม เรียกร้องให้คณะสงฆ์ที่ไปกราบไหว้ท่านได้พิจารณาตัวเอง ท่านมองยังไง อดีตพระยันตระ กล่าวว่า อาตมาไม่เคยเรียกร้องให้ใครมากราบไหว้ ไม่เคยบอกใครต้องมาเคารพกราบไหว้นอบน้อม
สำนักพุทธฯ ถือว่าในเมืองไทยท่านพ้นจากความเป็นพระแล้ว ในมุมของท่านยังคิดว่าเป็นนักบวชเป็นมุมของท่านเองหรือเปล่า อดีตพระยันตระ กล่าวว่า เขาคิดไปเอง อาตมายังเหมือนเดิม แค่ไม่ปลงปมปลงหนวด อาตมาก็สบายๆ นุ่งกางเกงจีน
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า อดีตพระยันตระ จะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาในเช้าวันที่ 27 ตุลาคม นี้ อาตมามีวีซ่าแค่เดือนเดียว เพราะถือพาสปอร์ตอเมริกา ส่วนชุดที่ใส่ อาตมาออกแบบเอง ส่วนที่บอกว่า สายเขียว อาตมาไม่รู้สึกอะไร อาตมาเป็นเอกเทศอยู่ของอาตมาเอง ไม่มีองค์กรอะไร เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง